บันทึกอนุทิน
วันที่ 26 กันยายน 2557
ครั้งที่ 6 เวลาเรียน 13: 10 - 16 : 40 น.
ผู้สอนได้ใช้เทคนิคในการสอน
1. สอนการประดิษฐ์ลูกยางกระดาษของเล่นวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยที่ทำได้ง่าย
2. สอนโดยมีเทคนิคการใช้ภาษาอังกฤษสอดแทรกในการบรรยาย
3. เมื่อนักศึกษาคุยกันในเวลาอาจารย์บรรยาย อาจารย์มีเทคนิคในการปราบนักศึกษาที่คุยกันโดยการหยุดบรรยาย เพื่อให้นักศึกษาตั้งใจฟังอาจารย์
4. ผู้สอนให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติจริง ทดลองจริง
การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการนำเสนอ
1. อาจารย์ใช้ PowerPoint ในการสอนและบรรยายการสอน
2. อาจารย์ใช้อินเตอร์เน็ตในการเชื่อมต่อ Blogger ให้นักศึกษาเพิ่ม Portfolio Electronics ภายในห้องเรียน
การประเมินในชั้นเรียน
ประเมินตัวเอง
วันนี้ผมมีความสนใจและกระตือรือร้นในการทำกิจกรรมงานประดิษฐ์ และตั้งใจฟังเนื้อหาอาจารย์สอน มีส่วนร่วมในการตอบคำถามทุกครั้ง วันนี้ผมตอบคำถามอาจารย์ได้เป็นอย่างดี พยายามที่จะทำความเข้าใจในบทความที่เพื่อนออกมานำเสนอ ตั้งใจฟังอาจารย์อธิบายเกี่ยวกับหน่วยการเรียนรู้ของกลุ่มต่างๆ
ประเมินเพื่อน
วันนี้อาจารย์มีกิจกรรมงานประดิษฐ์มาให้นักศึกษาได้ลงมือปฏิบัติ ทำให้เพื่อนทุกคนสนใจและมีความกระตือรือร้นในการทำกิจกรรม พอถึงช่วงท้ายๆคาบที่มีการนำเสนอบทความของเพื่อนในวันนี้ยังรู้สึกว่าเพื่อนยังนำเสนอบทความได้ไม่น่าสนใจสักเท่าไร ยังเป็นการเอามาอ่านซะมากกว่าการสรุป เพื่อนๆไม่ค่อยฟังการนำเสนอบทความของเพื่อน
ประเมินอาจารย์
วันนี้อาจารย์มีเทคนิคในการสอนมากมายเลย อาจารย์ได้ให้ทำของเล่นวิทยาศาสตร์ด้วย และสรุปการทดลองของการเล่นสิ่งประดิษฐ์ อาจารย์อธิบายและให้นักศึกษาแก้ไขหน่วยการเรียนรู้แล้วลง Blogger ให้สมบูรณ์ และการนำเสนอหน่วยการเรียนรู้อาจารย์จะให้ Comment ทุกกลุ่มทุกครั้งครับ
ความรู้ที่ได้รับ
วันนี้อาจารย์ให้นักศึกษาทำกิจกรรมประดิษฐ์ "ลูกยางกระดาษ" เป็นสิ่งประดิษฐ์วิทยาศาสตร์ที่ทำได้ง่าย และสอนเด็กปฐมวัยได้
อุปกรณ์มีดังต่อไปนี้
1.กระดาษ
2.กรรไกร
3.คลิปหนีบกระดาษ (หากไม่มีให้ใช้แม็ก)
วิธีทำ
อุปกรณ์มีดังต่อไปนี้
1.กระดาษ
2.กรรไกร
3.คลิปหนีบกระดาษ (หากไม่มีให้ใช้แม็ก)
วิธีทำ
ให้ตัดกระดาษขนาด 10 นิ้ว x 3 นิ้ว
เมื่อได้กระดาษแล้ว ให้พับครึ่ง
แล้วให้พับข้างใดข้างหนึ่งขึ้นมาประมาณ 1 นิ้ว
ให้ตัดกระดาษครึ่งหนึ่งของที่พับ
เมื่อตัดกระดาษครึ่งหนึ่งแล้ว จะได้ปีก แล้วให้พับออกคนละข้าง ก็จะได้ปีกลูกยาง
เมื่อกางปีกแล้ว ให้นำที่นีบกระดาษมานีบ หากไม่มีที่นีบกระดาษให้ใช้แม็คเย็บ
เสร็จแล้วนำไปโยนขึ้นฟ้า เมื่อโยนแล้วลูกยางกระดาษจะหมุนลงมา
การทดลอง
อาจารย์ให้แถวที่ 1-2 ออกมาสาธิตการโยนลูกยางกระดาษ (โดยลูกยางกระดาษของแถวที่ 1-2 ตัดครึ่งกระดาษที่พับ)
แถวที่ 3-5 ออกมาสาธิตการโยนลูกยางกระดาษ (โดยลูกยางกระดาษของแถวที่ 3-5 ให้พับกระดาษครึ่งของครึ่ง กระดาษที่พับครึ่งครั้งที่ 1)
สรุปการทดลอง
จากการทดลองทำให้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน เมื่อนำลูกยางกระดาษที่มีความแตกต่างกันมาโยนปรากฏว่า ส่วนที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้ลูกยางกระดาษสามารถหมุนได้เป็นวงกลมได้นานและคงที่คือ ปีก การทดลองนี้สรุปได้ว่าการที่ลูกยางลอยตัวลงมาได้อย่างสวยงามได้นั้นอาศัยการที่มีปีกหมุนอยู่ด้านบนทำให้แรงดันอากาศด้านบนน้อยกว่าด้านล่างจึงช่วยให้พยุงหนุนให้ลูกยางสามารถลอยตัวอยู่ในอากาศได้
สรุปการนำเสนอบทความของเพื่อน
บทความที่1 วิทยาศาสตร์กับการทดลอง เรื่อง ดอกอัญชันทดสอบกรด-ด่าง
บทความที่3 การจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
วิทยาศาสตร์มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการดำรงชีวิตประจำวันของมนุษย์ ตลอดชีวิตของทุกคนต่างก็มีความเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ทั้งสิ้น การเรียนรู้วิทยาศาสตร์จึงมีความสำคัญที่จะทำให้คนได้พัฒนาวิธีคิด ทั้งความคิดเป็นเหตุเป็นผล คิดสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์ วิจารณ์ มีทักษะที่สำคัญในการค้นคว้าหาความรู้ มีความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ สามารถตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลที่หลากหลายและ มีประจักษ์พยานที่ตรวจสอบได้ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ช่วยให้คนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติและเทคโนโลยีที่มนุษย์ขึ้น
การจัดประสบการณ์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ควรเน้นให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางเปิดโอกาสให้เด็กมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมมีประสบการณ์ตรง ได้ลงมือปฏิบัติจริงโดยมีครูเป็นผู้ตอบสนองความสนในของเด็กและส่งเสริมการจัดโครงสร้างความคิดจากประสบการณ์ เพื่อพัฒนามุมมองและความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ รวมถึงการส่งเสริมทัศนคติเกี่ยวกับการดูแลและมีความรับผิดชอบที่รักษาสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวอย่างเหมาะสมตามวัย
บทความที่ 4 สอนลูกเรื่องอากาศ
สารเคมีต่างๆที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ของกินของใช้ประจำบ้านเรา เช่น ผงซักฟอก สบู่ก้อน น้ำยาล้างจาน น้ำส้มสายชู บางอย่างก็มีความเป็นกรด(รสเปรี้ยว) บางอย่างเป็นด่าง(รสฝาด) เราสามารถทดสอบกรด-ด่างได้อย่างปลอดภัยไม่ต้องชิมรส ..ของบางอย่างกินไม่ได้นี่นา เริ่มการทดลองกันเลย
สิ่งที่ต้องใช้
1. ดอกอัญชัน(สีน้ำเงิน) 15 ดอก
2. นำร้อน
3. ผลิตภัณฑ์ที่ต้องการทดสอบ เช่น สบู่ก้อนต้ดเป็นชิ้นเล็กๆ น้ำมะนาว ผงซักฟอก น้ำส้มสายชู น้ำยา ล้างจาน
วิธีทดลอง นำดอกอัญชันมาแช่ในน้ำร้อนสักครู่ จะสังเกตว่ามีสีน้ำเงินละลายออกมาจากกลีบดอกทิ้งไว้จนกลีบดอกซีดจึงตักขึ้น นำน้ำสีน้ำเงินที่ได้แบ่งใส่แก้วใสตามจำนวนผลิตภัณฑ์ที่ต้องการทดสอบ และอย่าลืมเหลือสีเดิมไว้เปรียบเทียบด้วยติดป้ายชื่อผลิตภัณฑ์ บนแก้วแต่ละใบเพื่อจะได้ไม่สับสนตอนบันทึกผลการทดลองเติมสารเคมีที่ต้องการทดสอบ 1 ช้อนชา ลงไปในแก้วแต่ละใบ แล้วคนให้เข้ากัน เพราะอะไรกันนะ น้ำสีน้ำเงินของดอกอัญชัน สามารถเป็นอินดิเคเตอร์ วัดความเป็นกรด-ด่างได้ โดยสารที่เป็นกรดจะทำให้น้ำเปลี่ยนเป็นสีม่วงแดง สารที่เป็นด่างจะทำให้น้ำเปลี่ยนเป็นสีเขียว
สิ่งที่ต้องใช้
1. ดอกอัญชัน(สีน้ำเงิน) 15 ดอก
2. นำร้อน
3. ผลิตภัณฑ์ที่ต้องการทดสอบ เช่น สบู่ก้อนต้ดเป็นชิ้นเล็กๆ น้ำมะนาว ผงซักฟอก น้ำส้มสายชู น้ำยา ล้างจาน
วิธีทดลอง นำดอกอัญชันมาแช่ในน้ำร้อนสักครู่ จะสังเกตว่ามีสีน้ำเงินละลายออกมาจากกลีบดอกทิ้งไว้จนกลีบดอกซีดจึงตักขึ้น นำน้ำสีน้ำเงินที่ได้แบ่งใส่แก้วใสตามจำนวนผลิตภัณฑ์ที่ต้องการทดสอบ และอย่าลืมเหลือสีเดิมไว้เปรียบเทียบด้วยติดป้ายชื่อผลิตภัณฑ์ บนแก้วแต่ละใบเพื่อจะได้ไม่สับสนตอนบันทึกผลการทดลองเติมสารเคมีที่ต้องการทดสอบ 1 ช้อนชา ลงไปในแก้วแต่ละใบ แล้วคนให้เข้ากัน เพราะอะไรกันนะ น้ำสีน้ำเงินของดอกอัญชัน สามารถเป็นอินดิเคเตอร์ วัดความเป็นกรด-ด่างได้ โดยสารที่เป็นกรดจะทำให้น้ำเปลี่ยนเป็นสีม่วงแดง สารที่เป็นด่างจะทำให้น้ำเปลี่ยนเป็นสีเขียว
วิทยาศาสตร์เป็นการศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของเรา ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ส่งผลให้เราสามารถดูแลสุขภาพได้ดีขึ้นและมีความเข้าใจเกี่ยวกับการโภชนาการ ผลจากการแสวงหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ทำให้เรามีความเป็นอยู่อย่างสะดวกสบาย วิทยาศาสตร์ช่วยให้เราเข้าใจตัวเองและโลกรอบตัว ความยิ่งใหญ่และความซับซ้อนของธรรมชาติทำให้เราพยายามอธิบายเพื่อสร้างความเข้าใจและแสวงหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวในจักรวาล ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ทำให้เราเกิดความตระหนักมากขึ้นและพยายามที่เขียนอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมีเหตุผล
เด็กเล็กๆมีธรรมชาติที่เป็นผู้ความอยากรู้อยากเห็น ชอบใช้คำถามว่า ทำไม อย่างไรสามารถแสวงหาความรู้จากสิ่งต่างๆรอบตัวเขาและเริ่มเข้าใจสภาพแวดล้อมที่เขาอาศัยอยู่ เด็กสามารถสังเกตและสื่อสารเกี่ยวเรื่องดิน หินอากาศและท้องฟ้า เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุ พลังงานจากแม่เหล็ก แสงและเสียง เด็กสามารถสำรวจลักษณะของน้ำและความร้อน สิ่งเหล่านี้ทำให้เด็กปฐมวัยเริ่มการทำงานทางวิทยาศาสตร์ เด็กสามารถแก้ปัญหาต่างๆโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการเรียนรู้เรื่องอื่นๆได้มากมาย กิจกรรมวิทยาศาสตร์ส่งเสริมพัฒนาการทางสติปัญญาโดยทำให้เด็กได้รับความรู้ พัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์เช่น การสังเกต การจำแนกประเภทการเรียงลำดับ การวัด การคาดคะแน และการสื่อสาร รวมทั้งทักษะการแสวงหาความรู้
บทความที่3 การจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
วิทยาศาสตร์มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการดำรงชีวิตประจำวันของมนุษย์ ตลอดชีวิตของทุกคนต่างก็มีความเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ทั้งสิ้น การเรียนรู้วิทยาศาสตร์จึงมีความสำคัญที่จะทำให้คนได้พัฒนาวิธีคิด ทั้งความคิดเป็นเหตุเป็นผล คิดสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์ วิจารณ์ มีทักษะที่สำคัญในการค้นคว้าหาความรู้ มีความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ สามารถตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลที่หลากหลายและ มีประจักษ์พยานที่ตรวจสอบได้ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ช่วยให้คนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติและเทคโนโลยีที่มนุษย์ขึ้น
การจัดประสบการณ์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ควรเน้นให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางเปิดโอกาสให้เด็กมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมมีประสบการณ์ตรง ได้ลงมือปฏิบัติจริงโดยมีครูเป็นผู้ตอบสนองความสนในของเด็กและส่งเสริมการจัดโครงสร้างความคิดจากประสบการณ์ เพื่อพัฒนามุมมองและความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ รวมถึงการส่งเสริมทัศนคติเกี่ยวกับการดูแลและมีความรับผิดชอบที่รักษาสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวอย่างเหมาะสมตามวัย
บทความที่ 4 สอนลูกเรื่องอากาศ
การสอนลูกเรื่องอากาศ (Teaching Children about weather) เป็นการจัดกิจกรรมให้เด็กปฐมวัยได้เรียนรู้ถึงส่วนผสมของก๊าซต่างๆและไอน้ำ รู้คุณสมบัติของอากาศว่าไม่มีสี ไม่มีรสชาติ และไม่มีกลิ่น ก๊าซที่มีอยู่มากและจำเป็นต่อสิ่งที่มีชีวิตคือก๊าซออกซิเจนที่มีอยู่ในอากาศรอบๆตัวเราทุกหนทุกแห่ง อากาศมีอยู่ในบ้านและบริเวณ มีอยู่ในโรงเรียน บริเวณรอบโรง เรียน กลางป่า เขา ชายทะเล แม่น้ำ น้ำตก สวน และอื่นๆ
เด็กปฐมวัยเป็นวัยอยากรู้อยากเห็น ช่างสงสัย เด็กมักจะมีคำถามอยู่เสมอ ว่าสิ่งนั้นคืออะไร ทำไมเป็นเช่นนั้น เรารู้ได้อย่างไร เมื่อเด็กมีความสนใจธรรมชาติรอบตัว คำถามที่ต้องการให้ผู้ใหญ่ตอบมีหลายเรื่อง รวมทั้งสิ่งที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น คืออากาศ เด็กมีคำถามเสมอว่า อากาศ คืออะไร มาจากไหน ทำไมหนูจับไม่ได้ วันนี้หนูอยากอาบน้ำเพราะร้อนมาก ๆ ทำไมเป็นอย่างนั้น
ทักษะการสังเกตเป็นหนึ่งในทักษะขั้นพื้นฐานและจำเป็นสำหรับการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ การสังเกต (Observation) หมายถึง การใช้ประสาทสัมผัสอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างรวมกัน ได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น และผิวกาย เข้าไปสัมผัสโดยตรงกับสิ่งที่ต้องการเรียนรู้ เพื่อต้องการรู้รายละเอียดของสิ่งนั้น ๆ ที่จะนำมาซึ่งการเรียนรู้ที่มากขึ้นและเด็กจะเก็บเป็นข้อมูลหรือประสบการณ์ต่อไป จึงพูดได้อีกอย่างว่าสำหรับสำหรับเด็กๆ แล้วการสังเกตจะเกิดจากการใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้านั่นเอง
นำความรู้ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยนชน์
จะนำความรู้ที่ได้รับจากบทความ เรื่อง การจัดประสบการ์ทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย ไปใช้กับเด็กให้เด็กรู้สิ่งที่อยู่รอบๆตัวเด็ก และให้เด็กได้ใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 เพื่อให้เด็กเกิดการรับรู้ จะนำวิทยาศาสตร์และการทดลอง ไข่นิ่ม ไปใช้ในการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์ เพื่อให้เด็กเกิดข้อสงสัย และสามารถซักถามคุณครูได้ การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ผ่านการเล่านิทานเพื่อสอดแทรกความรู้ทางวิทยาศาสตร์ให้กับเด็กปฐมวัย ให้เด็กได้สังเกต ได้ซักถามคุณครู และจะนำความรู้ที่ได้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในวิชาชีพมากที่สุด
หน่วยการเรียนรู้ หน่วยกบ ของกลุ่มผม
ต้นฉบับ
ต้นฉบับ
ฉบับสมบูรณ์
หน่วยการเรียนรู้ต่างๆของแต่ละกลุ่ม
1. สอนการประดิษฐ์ลูกยางกระดาษของเล่นวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยที่ทำได้ง่าย
2. สอนโดยมีเทคนิคการใช้ภาษาอังกฤษสอดแทรกในการบรรยาย
3. เมื่อนักศึกษาคุยกันในเวลาอาจารย์บรรยาย อาจารย์มีเทคนิคในการปราบนักศึกษาที่คุยกันโดยการหยุดบรรยาย เพื่อให้นักศึกษาตั้งใจฟังอาจารย์
4. ผู้สอนให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติจริง ทดลองจริง
การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการนำเสนอ
1. อาจารย์ใช้ PowerPoint ในการสอนและบรรยายการสอน
2. อาจารย์ใช้อินเตอร์เน็ตในการเชื่อมต่อ Blogger ให้นักศึกษาเพิ่ม Portfolio Electronics ภายในห้องเรียน
การประเมินในชั้นเรียน
ประเมินตัวเอง
วันนี้ผมมีความสนใจและกระตือรือร้นในการทำกิจกรรมงานประดิษฐ์ และตั้งใจฟังเนื้อหาอาจารย์สอน มีส่วนร่วมในการตอบคำถามทุกครั้ง วันนี้ผมตอบคำถามอาจารย์ได้เป็นอย่างดี พยายามที่จะทำความเข้าใจในบทความที่เพื่อนออกมานำเสนอ ตั้งใจฟังอาจารย์อธิบายเกี่ยวกับหน่วยการเรียนรู้ของกลุ่มต่างๆ
ประเมินเพื่อน
วันนี้อาจารย์มีกิจกรรมงานประดิษฐ์มาให้นักศึกษาได้ลงมือปฏิบัติ ทำให้เพื่อนทุกคนสนใจและมีความกระตือรือร้นในการทำกิจกรรม พอถึงช่วงท้ายๆคาบที่มีการนำเสนอบทความของเพื่อนในวันนี้ยังรู้สึกว่าเพื่อนยังนำเสนอบทความได้ไม่น่าสนใจสักเท่าไร ยังเป็นการเอามาอ่านซะมากกว่าการสรุป เพื่อนๆไม่ค่อยฟังการนำเสนอบทความของเพื่อน
ประเมินอาจารย์
วันนี้อาจารย์มีเทคนิคในการสอนมากมายเลย อาจารย์ได้ให้ทำของเล่นวิทยาศาสตร์ด้วย และสรุปการทดลองของการเล่นสิ่งประดิษฐ์ อาจารย์อธิบายและให้นักศึกษาแก้ไขหน่วยการเรียนรู้แล้วลง Blogger ให้สมบูรณ์ และการนำเสนอหน่วยการเรียนรู้อาจารย์จะให้ Comment ทุกกลุ่มทุกครั้งครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น